วันเสาร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2553

อาถรรพ์ ศุกร์ 12

ที่จริงวันนี้นะ...เราต้องปฎิบัติภารกิจลับซึ่งได้รับการมอบหมายให้ขึ้นไปปักธงที่...ยอดเขาคิชกูดจ๊ะ

อุตสาห์เคลีย์งานให้นาย เตรียมงานตัวเองแล้ว จัดโต๊ะซะสะอาดเรี่ยมเร้เรไร...(ซุกอยู่ใต้โต๊ะ) หลังจากนั้นก็เขียนใบลาพักผ่อนมุ่งไปปฏิบัติภารกิจที่เขาคิชกูด

มูลเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดวาระซ่อนเร้นมี 3 ประการด้วยกัน

1.ครูมณี...ขออนุญาตท่านประธานพาดพิงหน่อย แกบอกว่าปีนี้ปีเสือเค้าให้ไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ที่สูงๆแล้วจะดี เค้า...ที่ว่าของครูมณีเป็นใครก็ไม่อาจจะทราบได้

2.ตั้งใจจะไปมา 3 ปีแล้วตั่งแต่สมัยเรียน อส.เพือนๆ ชวนกันไปก็ไม่ได้ไป และก็พลาดมาทุก ๆปีนี่แหละ

3.เผอิญพระสวามี ปีเกิดชงกับปีเสือ เค้าว่า...ดวงจะไม่ค่อยดีให้ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ซะบ้าง

แถมอีกประเด็นคือ เค้าจะปิดเขาในวันที่ 16 มี.ค.นี้

สรุปก็มีวาระซ่อนเร้นอยู่ 3 ประการ

0730 น. ตื่นขึ้นมาฟังข่าวเฮียสรยุทธกับเจ้กุ๊กไก่ ดูข่าวคราวความเคลื่อนไหวของบ้านเมือง

0800 น. นึกขยันก็รื้อผ้ามารีด รวมทั้งชุดที่จะเตรียมไปปีนเขาด้วย

0830 น. ได้ยินเสียงประหลาดมาพักนึงแล้ว แต่ก็ไม่ได้สนใจ พอดังอีก คราวนี้ก็เริ่มเดินหาที่มาของเสียง

ต้นเสียงดังมาทางสนามฟุตบอล ก็เลยชะโงกไปดูที่ระเบียงก็เห็นตัวอะไรก็ไม่ทราบได้ ติดดิ้นอยู่ที่ตาข่ายประตูฟุตบอล เมื่อเห็นดังนั้นก็สวมวิญญาณหน่วยกู้ชีพ...ฉุกเฉิน ทันที วิ่งลงมาชั้นล่างพร้อมกับใส่เสื้อเจ็คเก็ตคลุมชุดนอนอีกที ปากก็ตะโกนบอกสามีที่นั่งขัดปืนอยู่บนเตียง...(ขัดมันทั้งวัน อ้าวไม่ใช่ขัดปืนเหรอ) จากนั้นก็รีบวิ่งไปดูสถานที่เกิดเหตุ ก็พบสิ่งที่ติดพันอีรุงตุงนังกับตาข่าย มิใช่ปลาบึก...ปลาช่อน ดอกครับ แต่เป็น หมาน่อยหมาน่อยธรรมดา พอเข้าไปใกล้มันมันก็ตกใจเรา... เราก็ตกใจมัน...(ทำท่าสะดุ้งทั้งคู่..บ้าแล้ว) หมาน้อย ตกใจเพราะเราดันแต่งตัวรุ่มร่าม...ส่วนเราตกใจ เพราะว่ามันมาตกใจก่อนทำไมละ...(ไม่ใช่หรอก) เพราะไม่รู้จะช่วยมันยัง ดูจากสภาวะแวดล้อมแล้ว ตาข่ายพันที่บริเวณคอ ที่หลัง ที่ขา มันต้องเข้าไปจับตัวเจ้าหมาน้อยอย่างเดียว คิดได้ดังนั้น ก็... ถอดเสื้อมาพันไว้ที่เอวก่อน มันคงจะไม่ชอบที่เราแต่งตัวไม่สุภาพ จากนั้นก็สร้างความคุ้นเคยกันก่อน ชวนคุยโน่นคุยนี่ บ๊อกๆๆๆๆๆๆๆโฮ่งๆๆๆๆๆๆ แปลว่า เจ้ามาจากไส..จะไปไสน่อ...ซื่ออิหยัง...ข่อยมาซ่วยแล้วเนาะ...บ่ต้องกลัว...เฮาพวกเดียวกั่น... ประมาณนี้แหละ ปรากฏมันฟังฮูเฮืองเด้อ เราก็เข้าไปลูบหัวลูบหางสร้างความมั่นใจให้มัน เจ้าหมาน้อยก็ยินยอมแต่โดยดี จากนั้นก็เรียนผูกเรียนแก้อยู่พักนึง ระหว่างนั้นก็มีคุณยายที่แฟลตเดียวกับเรามายืนช่วยให้กำลังใจ เราทำอยู่คนเดียว แก้ไม่ออกก็ตะโกนเรียกสามีให้เอากรรไกรมาให้ที เพราะบ้างส่วนมันรัดแน่น ก็แกะอยู่พักนึง จึงหลุด ในระหว่างที่แกะอยู่นะ...คิดว่า....ถ้าเช้านี้โดนหมากัดแหละก็...จะไม่ออกนอกบ้านไปไหนเลยเชียว เพราะถือว่าซวยแต่เช้า สรุปเจ้าหมาน้อยนั้นก็หลุดออกจากพันธนาการ ตาข่ายประตู แต่ก็ไม่สามารถลุกวิ่งได้ หมดเรี่ยวแรงนั่งแหมะอยู่ เราก็เลยต้องอุ้มมาไว้ใต้ถุนแฟลต หมาน้อยเป็นอิสระแล้วก็ลุกวิ่งกลับบ้านสบายใจ...ไม่รู้บ้านอยู่ไหนเห็นวิ่งไปทางร้านลุงพร...(ต้นมะยม) The End จบ แต่แด้นๆๆแต่แด้นท์ๆๆ

เสร็จภารกิจก็ขึ้นบ้าน รีดผ้าต่อ...ฮัมเพลงไปด้วย....จัดเสื้อผ้าลงกระเป๋าเดินทาง...ฮัมเพลงอย่างมีความสุข..ฮืฮ..หือ...ฮา..ฮ้า.. ตะโกนสั่งพระสวามีที่อยู่ด้านล่างให้เตรียมแผนการเดินทางด้วย..(คือหาข้อมูล ร้านอาหาร ที่พัก...) จากนั้นก็มีเสียง โทรศัพท์เข้ามาที่เครื่องเรา ฮัลแหล..ไม่ทราบใครโทรค้า... คนโทรก็บอกว่า ..แต๋มเองพี่ตู่ ครีมทาหน้าที่พี่ตู่สั่งได้แล้นน่า.. แนะนำก่อน ..แต๋มนี่คือน้องสาวคนที่ 2 เราก็บอก..เหรอแล้วไง...หล่อนก็ถามว่า...พี่ตู่จะมาเอาครีมเมื่อไหร่ ...เราก็บอกเอาไว้ก่อน...ที่จริงวันอาทิตย์ที่ 14 นี้ เป็นวันเกิดเจ้าหล่อน หล่อนคงโทรมาหยั่งเสียงเราว่าจะกลับไปบ้านรึไม่...(ปากเกร็ด)...(นังคนนี้แผนสูงเชียว)

หล่อนถามว่า...พี่ตู่อยู่ที่ทำงานรึป่าว..(สงสัยได้ยินเสียง T.V.) เราก็ตอบตามจริงว่าป่าว...ลาไว้...จะไปขึ้นเขาคิชกูด ต้องไปวันนี้ เผื่อเสาร์ - อาทิตย์ มีเหตุ...ต้องรีบกลับกรมกอง...(เวอร์ไปงั้นแหละ) แต๋มมันก็บอกว่า...ไม่ไปไม่ได้เหยอ...เราก็ถามทำมัยย...มันก็บอกว่าฝันไม่ดี...เราก็ถามไม่ดียังงัยยย... ที่นี้มันก็เล่าเป็นเรื่องราวเลย..บอกว่า..พี่ตู่เครื่องบินตก ตายยยยย....(เราก็คิดว่า...ไปคิชกูดเนี้ยนะ..นั่งสายการบินอะไรฟะ) มันก็เล่าต่อ เสร็จแล้วก็เอาศพมาตั้งสวด..จัดงานศพ..เผาศพ..มีเก็บกระดูกด้วย...ร้องไห้กันใหญ่...เอากับมัน..ฝันครบวงจรเลย ..มันบอกว่าฝันติดตา..ตื่นเช้ามาก็ไม่ลืมแถมบอกว่า ถ้าฝันแบบนี้แล้วจะแม่น...มันยังย้ำความแม่นให้ฟังอีกว่า..เคยฝันอย่างนี้กับ..แม่แฟนคนเก่ามันมาแล้ว...ปรากฏ...อนาคตแม่สามีมัน...ตายยยยจริง ๆ เอากับมันซิแช่งเค้าจนตายเลยยย...

เราก็บอกว่าตั้งใจไปมา 3 ปีแล้ว ทำไมเธอไม่ฝันเวลาอื่นล่ะ..มันก็บอกว่า..พี่ตู่ขึ้นเขาเชียวน่ะ เราก็นึกถึงคนที่ไปมาแล้ว...ไอ้ณุ..ลูกน้องเราเอง..มันบอกว่า....จะไม่ไปอีกแล้ว..เพราะขึ้นเขาแนวดิ่ง 45 องศาเลยทีเดียว และต้องขึ้นรถโฟว์วิลว์ 2 ทอดกว่าจะถึงยอดเขา หลังจากวางหูเสร็จก็วิ่งลงมารายงานพระสวามีที่นั่งหาข้อมูลอยู่ ก็เล่าให้ฟัง..แจ๊ด..แจ๊ด..แจ๊ด...ฉอด..ฉอด..ฉอด...อย่างงั้น..อย่างงี้..สามีก็บอกว่าไม่มีอะไร..ไปเถอะ...ฟังเรารู้เรื่องด้วย ความอยากไปนะมีมากแต่พอนั่งคิดสักพักก็คิดได้ว่า..นก หนู หมูหมา กาไก่ จิ้งจกทักยังต้องฟังเลย...นี่คนทักทั้งคน...ไม่ไปดีฝ่า...ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า..ไปปีหน้าก็ได้...เขามันไม่หนีไปไหน...ยังไม่มีใครระเบิดทิ้ง ไปปีหน้าก็แล้วกัน...เป็นงัย..เหตุผล..เข้าท่าซะไม่มี..ไม่ได้กลัวนะ สรุป ...เดินขึ้นบ้านไปรื้อเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าเก็บเหมือนเดิม...ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น....นี่แหละความลับของ ศุกร์ ที่ 12 ฝันหวาน..เข้าฉายโปรแกรมหน้าจ้า

9 ความคิดเห็น:

  1. ตามตัวเมื่อวันศุกร์ ไม่เจอ หนีไปเที่ยวนี่หว่า

    เขียนเก่ง หนุก มันดี มีแวว

    ตั้งแต่ตระเวณไปอ่านบล็อกชาวบ้านมา อันนี้ยาวสุด

    ตอบลบ
  2. ไว้ลาย บรรณารักษ์เก่า อิอิอิ

    ตอบลบ
  3. สนุกดีน่าทำเป็นการ์ตูน

    ตอบลบ
  4. ไปสมัครเป็นนักเขียนเรื่องสั้นได้เลยน๊ะเนี่ย...สุดยอด..5555

    ตอบลบ
  5. มุกแยะดี หนุกดี ต่ออีกครู ต่ออีก....

    ตอบลบ
  6. อ่านแล้วหนุกมากๆ

    ตอบลบ
  7. ครูไปเที่ยวที่อื่นแล้วอย่าลืมคลองแควอ้อมบ้านครูนะครับ ตอนนี้ครูยังเข้าบ้านหลงทางอยู่หรือเปล่า ติด GPS ในรถเลยครับรับรองไม่หลงแน่ ฮิ ๆ ๆ

    ตอบลบ
  8. ยังไม่ได้อ่าน ก็ยังสนุกเลย

    ตอบลบ