วันอังคารที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2553

คันปาก...อยากเล่า (ภาค 2)

ต่อจากความเดิมตอนที่แล้ว...วันที่ไปตลาดนัดมาไง...จำได้รึยัง เรื่องมันก็มีอยู่ว่า...เดี้ยน..ชอบไปชอบปิ้งที่นัด...(ตลาดนัด) เดินมันทุกนัดที่มีโอกาส จนสามีกัดว่า...ไปเก็บค่าแผงอีกแล้วเหรอ... ฮึ..(ค้อนหนึ่งตลบ)เห็นเราเป็นคนคุมแผงไปได้ ที่ไปนะก็ไม่ใช่อะไรหรอก..ถือเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง...เป็นการฝึกต่อรองตัวประกัน..เอ้ย..ราคาสินค้า ต้องเฉือดเฉือนวาทะ...กลยุทธ์ต่างๆงัดขึ้นมาต่อรอง...(ราคา 20 บาท )..ภูมิใจมันซะไม่มีอีกประการหนึ่งก็จับจ่ายใช้สอย..จัดซื้อจัดหาควบคุมแจกจ่ายจำหน่าย...ว้ายไม่ใช่ จัดซื้อเสบียงสด-เสบียงแห้ง..เอาเข้าไป..บ้าไม่หยุด...ซื้อเสบียงเข้าบ้านจ้า เช่นผลไม้ต่างๆ กับข้าว และก็ผักนินิหน่อยหน่อย
ก็รู้อยู่แล้วคำว่า..ตลาดนัด...ก็หมายถึงแม่ค้าพ่อค้าและก็ลูกค้า..เค้านัดกันมา..เป็นไงมีสาระซะไม่มี ไม่รู้หมายถึงจะได..ต้องไปถามเจ้าอาทิตย์ว่าภาษาอังกฤษมันซิแปลว่าอิหยัง...เอาเป็นว่าสินค้าที่นำมาจำหน่ายจะราคาถูก..มีขายทุกชนิดทุกยี่ห้อ..ตั้งแต่สากกะเบือ...ยันเรือรบ...(โมเดลของเล่นจ๊ะ) มีเฟอร์นิเจอร์ ไม้มะค่า มะโมง ไม้สัก เครื่องประดับ มือถือ เสื้อผ้า รองเท้า ของใหม่ของเก่า จักรยาน กีตาร์ พระเครื่อง กับข้าว ผักสด ผลไม้ น้ำปั่น สาโท..(ยังมีเล้ย) ลูกหมาก็ขาย นกปรอทหัวจุก นกแก้วก็มี...ที่เนี้ยสุดยอดแล้ว ถ้วยชามรามไห ปลาไหลปลาแดก...โอ้ยมีสารพัด..เหนื่อย แม้กระทั่ง โตโยต้า อีซูซุ ก็ยังมาเปิดบูท
แต่ก็ตามธรรมชาติของตลาดนัดเค้านะ ทราบกันดีอยู่แล้ว...ของจะดีมีคุณภาพหรือไม่ ไม่มีใครมาควบคุมตรวจสอบ...ความพึงพอใจ..อยู่ที่ผู้บริโภคเท่านั้น...เลือกซื้อเองก็แล้วกัน การค้าขายของพ่อค้าแม่ค้าแต่ละคนจะมีลีลาเทคนิค กลยุทธ์ในการขาย ออกมาประชันกัน
ที่สาธยายมาซะท่วมทุ่งนี่...ก็จะเล่าให้ฟังว่า...ไปประทับใจอยู่ร้านนึง...(ไม่ได้เจอโจทย์อย่างที่ nonaสงสัยดอก)...เป็นร้านขายกับข้าวประเภทต้มยำ...เป็นต้มยำ..ปลาบึกกกกก...ตัวหย่ายย..ผู้ขายนำเสนอสินค้าของตนเอง..ได้เฉียบมากส์...เห็นแล้วโดน..แกเอาซากปลาบึกที่ยังคงมีหัวอยู่...ลำตัวเป็นก้าง...(เอ๊ะจะให้เป็นไหปลาร้าซี่โครงรึไง)...ล้อเล่น...จากนั้นก็ตามมาด้วยหางปลา..แกนำมาแขวนโชว์ด้านหน้าร้านแทนป้ายชื่อร้านนั่นเอง..ตัวมันใหญ่โตมากก..(ทำตาโตด้วย)...ย้ำอีกที..โคตรใหญ่เลยย...แกโชว์กันให้เห็นๆเลยว่าเป็นปลาบึกสดสดกันที่เดียว..ส่วนเนื้อก็ได้แล่นำมาทำเป็นต้มยำที่ขายไง..
มาสะดุดตาตรงที่คนขายอีก...โอ้วววว...คนขายแกไม่ธรรมดา...ไม่เหมือนตามธรรมชาติของพ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดเอาเสียเลย...มันช่างเท่ห์ซะไม่มี...แกขายกันอยู่ 2 คน...ชุดที่แกสวมใส่..ช่างไม่เหมือนกับชาวบ้านเอาซะเลย...(แกไม่ได้แก้ผ้าน่ะอย่าคิดมากจ๊ะ)...แกแต่งชุดเชพเลยล่ะ...(ชุดสีขาว)...ใส่หมวกที่เชพเค้าใส่กันนั้นแหละ ทรงสูงๆ ...กางเกงดำ...โอ้วววว...มองไปแล้วช่างไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องเค้าซะเลยยย...เป็นร้านที่ตั้งอยู่ท่ามกลางพ่อค้าแม่ค้ารายอื่นๆที่สับสนวุ่นวาย...แต่ร้านแกโดดเด่น...เป็นสง่า...เป็นยูนิฟอรม์...ที่ช่างขาวโอโม่..ซะไม่มี...ราวกับเชพกะทะเหล็กที่กำลังแข่งขันอยู่ในห้องส่งยังไงยังงั้น...(ตั้งใจจะบอกว่าแกโดดเด่นมาก)
นี่แหละจุดขายของแก..ซึ่งไม่ก๊อปใคร..เห็นที่แรกก็ตกใจ...เห็นครั้งต่อมาก็ขำ...เห็นบ่อยๆ...ก็ให้คิดได้...นี่แหละ...service mind...สิ่งที่ผู้ให้บริการนำเสนอมอบให้กับผู้บริโภคโดยทางอ้อม

สิ่งที่ผู้บริโภคได้รับ
1. ความสุข...(จากภาพลักษณ์ที่เห็น)...ในการได้รับบริการ
2. มีความมั่นใจในผลิตภันฑ์ที่ซื้อ
3.ความเชื่อในจรรยาบรรณวิชาชีพของผู้ปรุงอาหาร(จากการแต่งกาย)
4.มีสิ่งที่ดีมอบให้ลูกค้า

( โปรแกรมหน้าต่อภาค 3 พร้อมบันทึกภาพมายืนยัน )

3 ความคิดเห็น:

  1. กร๊าก...ฮาแตกอีกแล้ว
    บรรยายบรรยากาศซะอยากลาออกจากราชการไปขายของตลาดนัดบ้าง (แบบว่าเบื่อลูกน้อง)จะแต่งชุดนาวาเอกไปนั่งขายน้ำเต้าหู้ (สูตรครูปัญญา)กับเขาบ้าง (สร้างจุดขาย)
    แต่ไม่เอาตลาดนี้ เดี๋ยว (อดึต) ลูกน้องขอกินฟรี

    ตอบลบ
  2. บ่งบอกมากกกว่าเจ้ชอบเดินตลาด สุดริสสส จารอดูภาพนะจ๊ะ

    ตอบลบ
  3. ชอบมากๆทั้งลดทั้งแถมทั้งคุดทั้งคุ้ย...
    un...

    ตอบลบ